2017.05.24
ฤดูหนาวของทาคายามะ
หนึ่งในพื้นที่ที่หิมะตกหนักมากที่สุดของญี่ปุ่น “ทาคายามะ” ภูมิภาคที่มีภูมิทัศน์ของญี่ปุ่นจากสมัยก่อนและปัจจุบันยังหลงเหลือความเป็นต้นตำหรับอยู่เป็นจำนวนมาก ที่นี่อุดมไปด้วยผู้คนและสถานที่ท่องเที่ยว สามารถสัมผัสกับการเดินทางเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมาในญี่ปุ่น เป็นประสบการณ์การเดินทางที่ยอดเยี่ยมและอยากแนะนำในหนึ่งคืนสองวัน ที่ได้เดินทางไปกับน้องสาว
ฮิดะ ทากายามะซิติ้ บ้านสมัยโบราณ
จังหวัดทาคายามะตั้งอยู่ประมาณกลางของหมู่เกาะญี่ปุ่นค่ะ ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือและมีภูเขาสูงเรียงกันอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าเป็นดินแดนที่เทือกเขาฮิดะค่ะ ด้วยที่มีภูเขาสูงล้อมรอบมากมาย ในฤดูหนาวจะมีหิมะตกมาก ปริมาณของหิทะที่ตก
เฉลี่ยละประมาณ473เซนติเมตร ของทุกปีค่ะ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ทั้งตัวเมืองและภูเขาขาวโพลนด้วยหิมะ แต่กลับกันในช่วงฤดูร้อนนะค่ะ บางวันจะมีอากาศร้อนถึง30องศาเซลเซียสอย่างต่อเนื่องค่ะ
ในสองสามร้อยปีก่อนในยุคสมัยเอโดะ
ที่นี่เป็นเมืองที่ถูกก่อตั้งและที่พักอาศัยของขุนนางท้องถิ่นค่ะ แต่ไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านมายังไง ไม่ว่ายุคปัจจุบันนี้จะเจริญรุ่งเรื่องยังไง ทั้งเมือง บ้าน ถนน ปราสาท สถานที่ต่างๆ ยังถูกอนุรักษ์ไว้
ไม่เปลี่ยนจากสมัยก่อนค่ะ
ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ฉันและน้องสาวของฉันได้มีโอกาสไปจังหวัดทาคายามะ โดยนั่งรถไฟจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีนาโกย่าโดยใช้เวลาสองชั่วโมง และนั่งต่อรถไฟด่วนจากสถานีนาโกย่าไปยังสถานีทาคายามะ รถไฟด่วนที่นั่งจากสถานีนาโกย่า เป็นรถไฟที่ทุกออกแบบในสไตล์คลาสสิก ทำให้ฉันกับน้องสาวตื่นเต้นมากเลยค่ะ
ในขณะที่รถไฟแล่นผ่านออกจากจังหวัดนาโกย่า ระหว่างทางพวกเราได้เห็นทิวทัศน์ ของภูเขา ทุ่งนา แม่น้ำ สะพาน ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ สีขาวบริสุทธิ์ เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างยาวนานมากจากโตเกียว ใช้ระยะเวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่งจากสถานีนาโกย่าถึง
สถานีทาคายามะค่ะ
พอพวกเราก้าวขาลงจากรถไฟ มันหนาวมากเลยค่ะ
แต่เพราะด้วยความที่พวกเราตื่นเต้นและดีใจที่ได้เห็นหิมะ ทำให้พวกเราไม่สนใจความหนาวนั้นเลยค่ะ และที่ทำให้พวกเรารู้สึกตื่นเต้นไปมากกว่านี้นะค่ะ ก็คือที่พักครั้งนี้ทีค่ะ
อิทะคุระ โนะ ยะโด ชิโระคุริ (Itakura no yado hakuguri) ค่ะ เป็นบ้านพักที่เรียบง่าย ถูกสร้างโดยไม้ เป็นบ้านที่ถูกก่อสร้างโดยวิธีอิตะคุระ เป็นวิธีการสร้างบ้านที่เก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น วิธีการสร้างบ้านแบบนี้มีมาประมาณกว่า 1,000 ปีที่แล้วค่ะ เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้พักที่พักสไตล์แบบนี้ และที่สำคัญที่นี่ถูกล้อมรอบไปด้วยหิมะที่ขาวโพลน เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามงามมากๆเลยค่ะ
แท่งน้ำแข็งธรรมชาติกับปล่องไฟ
ก่อนที่พวกเราจะไปที่บ้านพัก หลังคาบ้านของเจ้าของบ้านถูกล้อมรอบไปด้วยแท่งน้ำแข็ง เหมือนทรงกรวยไอศครีม และใบไม้และผลเมล็ดลูกไม้สีแดงก็ถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำแข็งด้วย เหมือนเป็นหยดน้ำคริสตัลที่เป็นประกาย เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก
ทำให้พวกเราอดที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ได้เลยค่ะ แต่ที่หลังคาบ้านของเจ้าของบ้านมีแท่งน้ำแข็งใหญ่มากพวกเราสงสัยว่าถ้ามันตกลงมามันจะไม่อันตรายหรือเปล่า จะปล่อยให้แท่งน้ำแข็งละลาย หรือตกมาเอง พวกเรา จึงลองถามคุณโทกะ เจ้าของบ้านที่พักดูค่ะ จากนั้นนะค่ะ คุณโทกะ นำไม้ที่ยาวมากมาและสอยแท่งน้ำแข็งที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านให้พวกเราดู แท่งน้ำแข็งก็กระเด็นตกลงมาเต็มเลยค่ะ ใหญ่มากด้วย พวกเราลองจับแท่งน้ำแข็งดูมันเย็นเจี๊ยบมากเลยค่ะ.
บ้านของเจ้าของที่พัก ในห้องนั่งเล่นมีเตาปล่องไฟที่ใช้มาตั้งแต่ ห้าสิบ กว่าปีที่ค่ะ เป็นครั้งแรกที่เราเห็นเตาปล่องไฟแบบนี้ ทุกทีจะเห็นได้จากภาพยนตร์ ฟืนที่จะนำมาใส่ในปล่องไฟนั้น ต้องตากให้แห้งระยะเวลาประมาณในการตาก ประมาณสามถึงห้าปีถึงจะนำมาใช้ได้ค่ะ เพราะการใช้ฟืนที่ตากแห้งนานๆจะทำให้อบอุ่นขึ้นกว่าฟืนที่ไม่ได้ตากแห้งนานค่ะ
หรือถ้าใช้ฟืนที่ยังไม่ได้นำไปตากความอุ่นจากปล่องไฟก็จะลดลงค่ะ และยังทำให้ควันออกมาเยอะอีก พวกเราสองคนลองถือฟืนใส่เตาปล่องไฟกันค่ะ กว่าจะใส่ได้ก็ยากมาก เพราะฟืนหนักกว่าที่คิดไว้อีก
จากนั้นเราทั้งสองได้ลองขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านเจ้าของที่พักค่ะ มีไม้ที่ใหญ่มาก เป็นเสาหลักของตัวบ้านค่ะ น่าจะคงทนได้ถึงร้อยปีเพราะไม้แข็งแรงและคงทนมากค่ะ
ประสบการณ์การทำอาหารและสวมใส่ “โดเทระ”
จากที่เราได้รับประสบการณ์ในการสัมผัสแท่งน้ำแข็งและใส่ฟืนในเตาปล่องไฟแล้ว ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะเข้าบ้านพักได้แล้วค่ะ บ้านพักที่เราจะพักเป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบย้อนยุคค่ะ ข้างนอกดูเหมือนว่าจะเก่านะค่ะ แต่พอได้ลองเข้าไปข้างในแล้ว อินเทรน์มากเลยค่ะ เพราะบรรกาศในบ้านพักเป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่ตกแต่งผสมผสานไปสไตล์ตะวันตก
อย่างเช่นภาพอักษรคันจิ กับที่นั่งพักชมวิว ห้องอาบน้ำที่ทำจากไม้ ช่างตกแต่งเข้ากันได้อย่างลงตัวจริงๆค่ะ ในช่วงที่เราทั้งสองเพลิดเพลินกับการชมบ้านพักอยู่นั้น
เจ้าของบ้านพักได้นำข้าว ต้นหอม ที่ปลูกเอง กับมิโซ ที่ทำเองมาให้พวกเราค่ะ และนี่คืออาหารที่ดิฉันทำเองค่ะ
ปลาแซลมอนย่างเกลือ ของนึ่ง สลัด มิโซซุปต้นหอม ข้าวที่เจ้าของบ้านปลูกเองนุ่มอร่อยมาก ส่วนต้นหอมก็หวานมากเลยค่ะ
น้องสาวของดิฉันชอบชมว่าอาหารที่ดิฉันทำอร่อย
พอพวกเราทานข้าวกันเสร็จแล้ว พวกเราก็มานั่งพัก
จิบชาที่ห้องนั่งเล่นค่ะ แต่รู้สึกว่าหนาวนิดๆพวกเราจึงลองสวม โดเทระ ดูค่ะ โดเทระ เป็นรูปร่างของกิโมโนญี่ปุ่นค่ะ อบอุ่นมากๆ เพราะถูกถักทอด้วยผ้าฝ้ายหนาๆ ถึงพวกเราจะนั่งเปิดหน้าต่าง ชมวิว ไม่รู้สึกหนาวเลยค่ะ คนญี่ปุ่นสมัยก่อนคงมีโดเทระไว้สำหรับคุมตัวตอนหนาวนี่เองค่ะ